วันที่ 20 พ.ค 2557 คพ.พงษ์ศักดิ์ นารินรักษ์ เซอร์เอลิส และเซอร์โรสลีน ได้ไปที่ บ้านเลขที่ 242 หมู่ 10 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จากการแนะนำของสล่าติ ที่ได้มาสำรวจความเดือดร้อนของชาวบ้านแห่งนี้พบว่า บ้านแตกร้าว ฝ้าเพดานหล่นลงมากองกับพื้น มิหนำซ้ำลูกสาวเพิ่งคลอดลูกได้ 3 วันต้องหนีตายออกมาจากบ้าน พวกเราได้มอบน้ำดื่มบริสุทธิ์ และมาม่า ช่วยเหลือเบื้องต้น
หลังจากนั้นพวกเราย้อนกลับมาที่บ้านห้วยส้านพัฒนา แวะดูบ้านไม้หลังใหญ่ที่ได้รับผละกระทบจากแผ่นดินไหว เจ้าของบ้านไม่กล้าอยู่ต้องไปอยู่ที่สวน
ต่อจากนั้นญาติเจ้าของบ้านพาพวกเราไปเยี่ยมวัดห้วยส้านพัฒนา ซึ่งมีพระอาจารย์จิตตินันท์ สุขโพ รองเจ้าอาวาสวัด ต้อนรับและรับมอบของที่พวกเรานำมามอบให้กับวัด เพื่อช่วยชาวบ้านต่อไป
หลังจากเสร็จภาระกิจแวะเยี่ยมเยียนวัดห้วยส้านพัฒนาแล้ว พวกเรามุ่งหน้าไปที่เด่นห้า พวกเราหลงทางไปเส้นทางวัดร่องขุ่น พอกำลังจะกลับรถเผอิญเจอบ้านที่ไม่มีหลัง แต่มีเต็นท์ขอรับการช่วยเหลือ พวกเราแวะที่นั่นและทราบว่าบ้านหลังนี้ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเช่นกัน จากการสนทนาพูดคุยกับเจ้าของบ้านชื่อแก้วภา ใจอุ่น สองพี่น้องที่สะสมเงินทองสร้างบ้านจนเสร็จ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะพังทะลายลงลงกับตาเพีงไม่กี่วินาที
หลังจากช่วยเหลือสองพี่น้องและครอบครัวอื่นๆ อีกห้าครอบครัวแล้ว พวกเรามุ่งหน้าไปที่โรงเรียนโป่งแพร่วิทยา โรงเรียนโป่งแพร่วิทยาเปิดตั้งแต่ ระดับอนุบาล ถึง ม 3 ซึ่งมีนักเรียนทั้งหมด 278 คน ครู18 คน นักเรียนต้องเรียนในเต็นท์ เพราะตัวอาคารเรียนทรุดทั้งตึกและร้าวทั้งหมด วิศวกรไม่อนุญาตให้เข้าไกล้ตัวตึก เพราะอาจพังทะลายลงได้ทุกเมื่อ นี่แหละคือ "โรงเรียนของหนู"
หลังจากที่เก็บภาพเรียบร้อยยแล้ว พวกเราได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง เช่น น้ำดี่ม ไข่ มาม่า ข้าวสาร ให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนโป่งแพร่วิทยา
ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนโป่งแพร่ต้องนอนเฝ้าโรงเรียน เพราะอัฟเตอร์ชอคยังคงมีอย่างต่อเนื่อง สิ่งทั้งหลายทั้งมวลที่พวกเราร่วมกันทำทั้งหมดนี้ เพราะเราคิดว่าโรงเรียน บ้าน ชุมชน คือหัวใจของความสำเร็จของทุกสถานศึกษา ที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อให้เป้าหมายของโรงเรียนบรรลุผลสำเร็จนั่นเอง.
"วัดจะดี มีหลักฐาน เพราะบ้านช่วย บ้านจะสวย เพราะมีวัด ดัดนิสัย ทั้งบ้านวัด พลัดกันช่วย ก็อวยชัย ถ้าขัดกัน ก็บรรลัย ทั้งสองทาง"